The Girl Who Leapt Through Time กระโดดกระชากเวลา

จากผู้กำกับภาพยนตร์ Mamoru Hasoda ที่เปิดตัวสร้างปรากฎการณ์ในเรื่อง The Girl Who Leapt Through Time เมื่อปี 2006-2007 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กน้อยที่สามารถย้อนเวลากลับได้เมื่อได้พบกับเครื่องที่ทำให้ การกระโดดธรรมดากลายเป็นการย้อนเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายๆต่างๆ ได้ทำให้เวลาปั่นป่วน จนคนที่รับเคราะห์เป็นคนรอบข้างไปหมด เมื่อเหลือให้ย้อนเวลาได้แค่ครั้งเดียว เขาจะทำเช่นไร

เนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างช้า และเอื่อยๆ แต่มีข้อคิดตลอดทั้งเรื่อง เป็นการคิดอย่างสร้างสรรค์ในมุมมองของเวลาที่ไม่เคยย้อนได้ และความรู้สึกดีๆที่มีเพียงความทรงจำ การตอกย้ำในจุดนี้เป็นจุดเด่นของการ์ตูนนี้ไป จะเห็นได้ว่าตัวละครมีการออกแบบที่คล้ายกับในการ์ตูน Digimon เป็นอย่างมาก เพราะคนทำคือ1 ในผู้กำกับ Digimon The Movie นั้นเอง แต่คงไม่ใช่แกนหลัก

The Girl Who Leapt Through Time ได้เป็นม้ามืดคว้ารางวัลเป็นกอบเป็นกำ จนเป็นใบเบิกทางให้กับ Mamoru Hasoda สร้างสรรค์ผลงานต่อมานั้นคือ Summer Wars นั้นเอง

ร่ายกลบทกบเต้นต่อยหอย&ร่ายกลบทกบเต้นสลักเพชร

ร่ายกลบทกบเต้นต่อยหอย

ตัวอย่าง
สรรแต่หาญสารตัวเหี้ยม เทียมช้างมารทานช้างหมื่น พื้นโถมศึกฝึกทนศร ร่อนงาส่าย ร่ายเงยเศียร เรียนเชิงสู้รู้ชนสาร ร่านบ้าแทงแรงบ่ถอย ร้อยคชหนีรี่ขึ้นหน้า… เทิดกระบี่ที่กระบวน ทวนหอกรำทำหันร่อน
ข้อ กำหนด สัมผัสในให้คำที่ ๑ กับคำที่ ๔ คำที่ ๒ กับคำที่ ๕ และคำที่ ๓ กับคำที่ ๖ สัมผัสอักษรกัน และให้คำที่ ๓ กับคำที่ ๔ สัมผัสสระกัน ส่วนสัมผัสนอกต้องให้คำสุดท้ายของวรรคต้นสัมผัสกับคำต้นของวรรคต่อไปและไม่ บังคับวรรณยุกต์

ร่ายกลบทกบเต้นสลักเพชร

ตัวอย่าง
ต่างแกล้วสรรตัวกลั่นสรรพ แล่นโจมทัพไล่จับทัน จู่เข้าฟันจับคันฟาด ล้มกลิ้งดาษลงกลาดดื่น ขุนม้าพื้นขุนหมื่นพัน ตัวล่ำสันต่างลั่นศร ตั้งมือร่อนโตมรรำ เสื้อแดงก่ำสีดำแกม หมากสุกแปมม่วงแซมปน หมู่พหลม้าพลหาญ … ชาญศึกรู้เชิงสู้รับ แม้ร้อยทัพมารับทัน
ข้อกำหนด สัมผัสในให้คำที่ ๑ กับคำที่ ๔ คำที่ ๒ กับคำที่ ๕ และคำที่ ๓ กับคำที่ ๖ เป็นคำสัมผัสอักษรกัน และให้คำที่ ๓ กับคำที่ ๕ สัมผัสสระกัน ส่วนสัมผัสนอกต้องให้คำที่ ๖ ของวรรคหน้าสัมผัสกับคำที่ ๓ ของวรรคหลัง

credit: http://www2.srp.ac.th/~anurat/wetsandon1.htm

การ์ตูนแนวหน้า ที่คาดว่าจะได้เข้าชิง Oscar

ผ่านมากว่า 10 ปี เมื่อ Shrek ได้รับรางวัลออสการ์เรื่องแรกในสาขา Best Animated Feature ตอนนี้ปรากฎการณ์การ์ตูน 3D เต็มโรงภาพยนตร์ แต่จะมีซักกี่เรื่องที่ได้เข้าชิงออสการ์ ซึ่ง chinchongcha คาดการณ์ไว้ว่าจะมี 6 เรื่องหลักๆที่ทำรายได้มโหฬารมาดังนี้

1. เริ่มด้วย Tangled ที่กวาดรายได้ประจำสัปดาห์แซงหน้า Harry Potter and The Dealthy Hollow Part I ไปได้ เป็นการ์ตูนแบบเดียวกับ Bolt ซึ่งทำให้ผู้ชมได้เข้าสมผัสกับรสแบบ Disney

2. จากบทบาท ผู้ร้ายพลิกกลับมาเป็นฮีโร่จำเป็น กอบกู้โลกแบบตลกสุดฮา จากค่าย Dreamwork ซึ่งคราวนี้ Megamind สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ชม กอบรายได้เข้าคลังเพิ่มขึ้นต่อไป

3. การ์ตูนต้นทุนไม่มากเท่า Toy Story 3 แต่กวาดรายได้ไปถล่มทลาย Despicable Me จากโรงถ่าย Universal เรื่องแรกสร้างความหรรษา มหัศจรรย์ในรูปแบบจอมวายร้ายขโมยดวงจันทร์ ใช้ความน่ารักของเด็กทั้งสามอ้อนความสงสารนำพา Despicable Me ขึ้นแท่นใจคนดูสำเร็จ

*
*

4. Shrek Forever After ภาคสุดท้ายแห่งตำนานการ์ตูนเรื่องแรกที่ได้ Oscar ในภาค 1 แม้ว่าคราวนี้อาจไม่ดีเท่าภาค 1 และ 2 แต่เนื้อเรื่องกินใจ chinchongcha มอบเป็นของขวัญสุดท้ายของฮีโร่ยักษ์เขียว

5. มังกรไวกิ้งจากค่าย Dreamwork how to train your dragon โฉบเชียวคว้าใจคนดู กวาดรายได้ถล่มทลายในเดือนมีนาคม นับเป็นหนังที่ทำคะแนนดีที่สุดจากค่าย Dreamwork และทำรายได้ดีที่สุดนอก Shrek Series ของ Dreamwork แต่มังกรจะสู้ของเล่นๆของ Pixar ได้หรือไม่

6. แชมป์เก่าอย่าง Disney&Pixar ออกการ์ตูนในตำนาน Toystory3 ที่รอนานกว่า 15 ปี ทำให้คนดูได้อารมณ์ ได้ความตลกแบบเด็ก การ์ตูนของเล่นที่ไม่เล่นๆเลยนี้กวาดรายได้สูงสุดใน Boxoffice ไปนานหลายสัปดาห์ ก่อนจะถูก Despicable Me และ Inception แย่่งตำแหน่งไป นับเป็นการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2010