จาก Rapunzel เป็น Tangled

https://i0.wp.com/www.stitchkingdom.com/wp-content/gallery/tangled_stills/122_50_125cmyk.jpg

จากการ์ตูนของ Disney เรื่องที่ 50 ชื่อว่า Tangled นั้นสามารถเบียดแฮร์รี่ พอตเตอร์ตกจากอันดับ 1 กวาดรายได้สัปดา์ห์แรกอย่างสวยงาม แต่พอสัปดาห์ต่อๆมา กลับลดลงอย่างน่าประหลาด ก็เำพราะว่า ความเป็น Disney ในสมัยนี้อาจตามไม่ทันจิตใจของคนที่ไม่อ่อนละมุน https://chinchongcha.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/02/rapunzel-tangled-disney-15865387-286-720.jpg?w=119และนุ่มนวล เหมือนสมัยก่อน อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ทำไว้ทั่วโลกก็เป็น 2 เท่าของต้นทุนที่แพงที่สุดเท่าที่การ์ตูนจะเคยมีถึง 260 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่า Toy Story 3 ที่ใช้ต้นทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Tangled ยังสามารถกู้หน้าความเป็น Disney ที่จางหายไปตั้งแต่ยุค 1990s หรือเมื่อถึง 10 ปีก่อน เทียบชั้น Beauty&TheBeast เลยทีเดียว

Tangled ดัดแปลงมาจากนิทานเยอรมันชื่อว่า Rapunzel หรือเจ้าหญิงบนหอคอยที่มีชื่อเสียงอย่างมากในปี 1812 หรือ 200 ปีก่อนเลยทีเีดียว แต่ความสวยงามตามแบบ Disney หายากในนิทานนี้ และมีบทเศร้าอยู่บ่อยครั้ง การนำมาทำการ์ตูนที่สดใส ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

https://i0.wp.com/upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/1/1c/Rapunzel-Disney.jpg/200px-Rapunzel-Disney.jpg นิทานกล่าวถึงว่า มีพ่อแม่ชาวบ้านธรรมดา เห็นดอก Rapunzel ในสวนแม่มด ผู้เป็นสามีจึงแอบเด็ดดอกไม้มาให้ภรรยากิน แต่เมื่อลอบเอาครั้งที่ 2 กลับโดนแม่มดจับได้ และแลกด้วยลูกสาวของเขานั้นเอง แม่มดเก็บเด็กคนนี้ไว้ โดยตั้งชื่อว่า Rapunzel และเมื่อโตขึ้น แม่มดก็อยากเก็บเด็กคนนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว จึงให้อยู่บนหอคอยสูงไร้บันได แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเจ้าชายมาแอบลอบขึ้นไปสำเร็จ และหลงรักของ Rapunzel วันหนึ่งแม่มดรู้เข้า จึงซ่อน Rapunzel และตัดผมนาง จากนั้นก็หลอกให้เจ้าชายปีนผมขึ้นมา และปล่อยตกจากหอคอย เจ้าชายจึงตาบอด ต่อมาเขาก็ท่องไปในป่าจนพบกับนางเอก และแต่งงานจนมีลูก Rapunzel ปลื้มปิติ ด้วยน้ำตาแห่งรักแท้นี้เองทำให้เจ้าชายตาเป็นปกติอีกครั้ง และจบ Happy Ending

https://i0.wp.com/images2.fanpop.com/image/photos/13000000/tangled-Rapunzel-disney-flynn-disneys-rapunzel-13076432-1283-724.jpg แน่นอนว่า ในการ์ตูนนั้น เนื้อเรื่องดำำเนินไปแบบคนละทางเลยทีเดียว และมีความมหัศจรรย์กว่าอย่างมาก การจบสวยกว่าในเรื่องนิทาน และในการ์ตูนก็ไม่มีเจ้าชาย แม่มดฉลาดกว่า เนื้อเรื่องสมเหตุสมผล และเข้าท่าเข้าทางกว่า รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เรียกว่า นี้แหละ Disney โดยต่างกับ The Princess and The frog เมื่อปีก่อนอย่างมาก ทำให้นึกย้อนกลับไปนึกถึงฉากใน Beauty&TheBeast เลยทีเดียว

ส่วนตัวแล้วเหตุที่ชอบเรื่องนี้ เพราะ https://i0.wp.com/nerdsinbabeland.com/wp-content/uploads/2010/11/Tangled-disney-princess-15249876-1599-1107.jpgเราดูภาพยนตร์เครียดๆ ใช้สมองมาเยอะ บางครั้งการกลับไปดูการ์ตูนเบาสมอง เพลงเพราะๆประกอบ ให้ข้อคิดดีๆ ฉากสวยๆ แค่นี้อาจทำให้มีความสุขได้มากกว่าการมีปริศนาซ้อนกันหลายๆชั้น อีกทั้งมัีนทำให้เห็นภาพตอนเป็นเด็ก จบบทความนี้ด้วยเพลงดังๆ 2 เพลงประกอบเรื่อง รับรองว่าถ้าดูไปด้วย ฟังไปด้วย เพราะขึ้นเป็นกองๆๆๆ

ดูได้ที่
I see The Light – Oscar nomination best Music from Tangled
When Will My Life Begin? – First Music from Tangled
Kingdom Dance – Tangled
I’ve got a dream @ Bar in the forest – Tangled
Something That I want – End Credit Tangled
Special From Tangled – Disney
Website: chinchongcha Land

*The Evolution of Female Stereotypes through the Disney Princesses เรื่องราวพัฒนาการของเจ้าหญิงในนิทาน

Very Best Animated Feature 2010

ถ้าจะบอกว่า ปี 2010 เป็นปีที่มีการ์ตูนเข้าฉายมากที่สุด คงไม่ไกลเกินจริงไปซักเท่าใดนัก ทั้งความสนุก, ความสวยงาม, Plot, Music สามารถทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ โดยปีนี้ chinchongcha ขอมอบรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม 7 เรื่องดังนี้

Toy Story3, How To Train Your Dragon, Tangled, Summer Wars, Megamind, Despicable Me และ Shrek Forever After

https://i0.wp.com/img18.imageshack.us/img18/6260/bestanimtedfeature.jpg

โดยเริ่มต้นปี 2010 ก็เต็มไปด้วยข่าวคราวการวิพากษ์วิจารณ์ Toy Story 3 ที่คิดว่าคงไม่มีอะไรใหม่ กินบุญเก่ากันไป ความคาดหวังตกกับ Dreamwork ที่จะการ์ตูนดีๆถึง 3 เรื่อ

งในปีนี้ มี How To train Your Dragon, Shrek Forever After และ Megamind ซึ่งแบ่งเป็นต้นปี กลางปี และปลายปี ดังที่เห็นว่า How To Train Your Dragon ค่อนข้างถูกนอกสายตา รวมถึง Shrek Forever After ที่คนเบื่อตัวเขียวกันตัวเกลียว และ Megamind ที่วายร้ายหัวบวมไม่ประทับใจคนชม ในเมื่อปีนี้เต็มไปด้วยการ์ตูนที่ไม่น่าจะดี ก็มาดู Tangled ของ Disney กันบ้าง แต่เมื่อ Trailer ออก กลับทำให้คนติว่า เหมือนทำ Shrek ภาค 1 กระนั้นวงการการ์ตูนก็บอกว่า ยังมี Despicable Me ไว้ปลอบใจซึ่งต้นทุนต่ำจนคิดว่า คงดีไม่เท่าไร หรือ Alpha & Omega ที่ไร้ปี่ไร้ขลุ่ย

https://i0.wp.com/www.heyuguys.co.uk/images/2009/11/How-to-Train-Your-Dragon.jpg เมื่อภาพยนตร์เรื่อง How To Train Your Dragon ด้วยต้นทุน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการเปิดศึกของหนังในช่วงต้นปี การ์ตูน Dragon กลับถล่มรายได้แบบเหนือชั้น เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งของ Dreamwork ทำให้การ์ตูนอีก 2 เรื่องของค่ายนี้ถูกจับตามอง และกำลังเป็นปีทองของ Dreamwork และมีทีท่าจะชนะในเวทีออสการ์อีกด้วย ทำให้ Pixar Animation Studio ถูกมองข้าม และกำลังมีคู่ปรับคนสำคัญ ซึ่งก็เป็น คู่ปรับสมน้ำสมเนื้อจริงๆของ Pixar

https://chinchongcha.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/02/howtotrainyourdragon.jpg?w=300 How To Train Your Dragon เป็นเรื่องราวของไวกิ้งวัยรุ่นคนหนึ่งที่ถูกคาดหวังเป็นผู้นำ ด้วยความไม่แข็งแรงเหมือนคนอื่นๆ ทำให้เขาหันไปใช้สมองประดิษฐ์ของเพื่อล่ามังกร แต่แล้ว โชคชะตาก็เล่นตลกให้เขาได้เป็นเพื่อนกับมังกร https://i0.wp.com/ramascreen.com/wp-content/uploads/2010/02/How-To-Train-Your-Dragon.JPGจนเข้าใจว่า มังกรเป็นสัตว์ไม่มีพิษภัย เขาจึงพลิกชะตาของหมู่บ้านไวกิ้ง จากผู้ล่ามังกร เป็นเพื่อนมังกรได้สำเร็จ เรื่องนี้แสดงความลึกซึ้งระหว่าง Hiccupกับมังกรเป็นอย่างดี รวมทั้งฉากการปะทะที่สนุก ลุ้นระทึก

https://i0.wp.com/screencrave.frsucrave.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2010/06/Toy-Story-3-Time-to-Celebrate-7-6-10-kc.jpg แต่แล้วภายหลังเขี้ยวมังกรบนแท่นหินเพียง 3 เดือน ก็ถูกกองทัพของเล่นประทับรอยเท้า รอยประทับhttps://i0.wp.com/images.digitalspy.co.uk/10/09/550w_movies_toy_story_3_poster.jpgใจ ด้วย Toy STory3 ที่เปิดตัวได้สวยงามเหนือความคาดการณ์ใดๆ เนื้อเรื่องที่ไร้ที่ติ Model 3D ฉบับ Pixar ที่ไม่เคยผิดหวัง เรียกได้ว่า ชุบชีวิต Toy Story ขึ้นมาใหม่เลยทีเดียว การเล่นมุขใหม่ของ Potatoes Head, หรือการหนึจากสถานเลี้ยงเด็ก ที่ปล่อยมุขเด็ดทุกๆนาที การจบการ์ตูนอย่างสวยงาม ไร้ข้อกังขา ไขปัญหาที่ผูกปมไว้อย่างชาญฉลาด และสร้างสรรค์ ไม่เสียชื่อ Pixar กวาดรายได้สูงสุดของปี 1000 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยต้นทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ มากที่สุดที่ Pixar เคยทำ

จนจบปี 2010 แล้ว Toy Story 3 ยังคงถูกกล่าวขวัญขึ้น https://i0.wp.com/antikewl.com/daily/wp-content/uploads/2009/10/toy_story_3_andy.jpgและได้รับรางวัลมากมาย และเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ได้รับรายได้สูงสุดของปีนี้ มากกว่า Alice in Wonderland และ Inception

https://i0.wp.com/lostinreviews.com/wp-content/uploads/2010/07/despicable-me6.jpg แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ Pixar& Disney ต้องหันไปมอง ทึ่งกลับค่าย Universal ที่ออกhttps://i0.wp.com/www.daemonsmovies.com/wp-content/uploads/2010/04/despicable_me_movie_03-550x309.jpgการ์ตูนเรื่องแรก และแล้ว Despicable Me ก็ทำให้ทุกคนที่ไปดูรักในตัว Gru ได้ทันที ด้วยต้นทุนเพียง เฉียด 70 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับกวาดรายได้ถึงประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยความง่ายๆ ความตลก ความผูกพันในครอบครัว นี้คือ จุดเด่นของ Despicable Me ที่ชี้ให้เห็นว่า การทำ 3D Animation ไม่ยากอีกต่อไป กรูคราวนี้นอกจากจะได้ขโมยดวงจันทร์ไปแล้ว ยังเอารายได้ของคนในกระเป๋าอย่างเป็นกอบเป็นกำ และประทับใจได้ว่า นี้แหละการ์ตูนที่ดี

https://i0.wp.com/cdn.babble.com/famecrawler/wp-content/uploads/2010/05/shrek-forever-after-2.jpg

Shrek Forever After ที่รายได้ก็ดี แต่อาจไม่สู้ตัวอื่นได้ เนื้อเรื่องที่ทำได้ดีเกินคำว่า ยักษ์เขียว แต่การแก้ตัวในภาคสุดท้าย คงยากเกินไป ทำให้ Shrek นั่งคอตกเล็กน้อย ภาคนี้เป็นเรื่องราวที่จะสอนใจ Shrek ที่อยากจบมากกว่าแบบสุขสันต์นิรันดร นำไปสู่ฝันร้ายชั่วข้ามคืน ที่ทำให้ Shrek รู้ว่า สิ่งที่เขามีอยู่นั้น มีค่า และยากจะได้มามากแค่ไหน

https://i0.wp.com/blog.funimation.com/wp-content/uploads/2010/11/SummerWars_26x39_front_flat_final.jpg ระหว่างที่การ์ตูนใหญ่ๆไม่ได้เข้าโรงเท่าไร ก็หันไปดูเอเชีย จากผู้สร้างสาวน้อยกระโดดข้ามกาลเวลา ตอนนี้เขาทำการ์ตูน SciFi-Technology เรื่อง Summer Wars สงครามไซเบอร์ที่บอกความสัมพันธ์ของครอบครัว การใช้ตัวเอกหลากหลายคน ทำให้เข้าถึงได้ทุกวัย และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ใครก็เป็นพระเอกได้ แม้แต่คนแก่ คนคงแก่งเรียน ผู้หญิง ก็กอบกู้โลกได้ แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะใจคนตะวันตก แต่ผมกลับเห็นว่า มันยอดเยี่ยม

http://canime.files.wordpress.com/2010/04/summer-wars005.jpg

https://i0.wp.com/www.bsckids.com/wp-content/uploads/2010/09/Megamind-Will-Ferrell.jpg กลับมา Box Office อีกครั้ง Dreamwork กลับมาอีกครั้งด้วย Megamind ที่ขายเสียงคนพากย์ดังๆ เนื้อเรื่องพลิกล็อคหลายครั้ง จนกลับมาจบแบบแปลกๆ แต่คนดูก็ชอบ ยืนในตำแหน่ง 1 นาน 2 สัปดาห์ มีฉากที่ Metroman(Superman ในเรื่อง) ตาย ทำให้ฮาได้ไม่หยุดเลยทีเดียว และเมื่อนางเอกรักกับตัวร้าย ก็ทำให้ขมขื่นhttps://i0.wp.com/www.bscreview.com/wp-content/uploads/2010/11/megamind1.jpgใจได้แปลกๆ แต่ด้วยการที่ Despicable Me ใช้มุขตัวร้ายกลับใจมาตัดหน้าเพียงไม่กี่เดือน ทำให้ Megamind กลับใจเป็นเรื่องเดิมๆไป 55+ แต่ความหรรษา จากความตลกไร้ขีดจำกัดของพระเอก และอุัปกรณ์ก่อการร้ายที่สุดบรรเจิดของผู้สร้าง ก็ทำให้ประทับใจได้มาก การหักมุมแต่ละครั้งถูกใจคนดู ยกนิ้วให้ด้านการหักมุมจริงๆ

https://chinchongcha.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/02/tangled.jpg?w=300 เมื่อ Disney กำลังได้ชื่อว่า ตกต่ำ หรือ ถูกลืม หรือ ตามโลกไม่ทัน ปีนี้ Disney กลับมาโฉดช่วงอีกครั้ง เมื่อเรื่องที่ 50 ของ Disney ชื่อว่า Tangled สร้างความประทับใจในรูปแบบเดียว Beauty & The Beast ในช่วง 1990s ทั้งความสวยงาม 3D เนื้อเรื่อง ข้อคิด และเพลงThe Musical เรียกว่า Disney เีรียกเสน่ห์ของนวนิยายกลับมาได้ครบจริงๆ ไม่ผิดหวังเลย

https://i0.wp.com/cache.gawkerassets.com/assets/images/8/2010/11/tangled_01.jpghttps://i0.wp.com/calitreview.com/images/tangled_still.jpg